แผลถลอกติดเอดส์ไหม แผลแบบไหนที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้

แผลถลอกติดเอดส์ไหม แผลแบบไหนที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้

เอชไอวี (HIV) และเอดส์ (AIDS) ไม่เหมือนกัน โดย โรคเอดส์ เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV)

ซึ่งเป็นระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราได้ถูกทำลายลงอย่างหนัก จนส่งผลให้จำนวนของเม็ดเลือดขาวชนิด CD4

ลดลงอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถ ทำการต้านทาน ต่อ เชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าไปสู่ร่างกายได้ ส่งผลให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้นอ่อนแอ

และมีโอกาสในการติด โรคฉวยโอกาสได้ง่าย พัฒนาไปสู่ ระยะโรคเอดส์ จนอาจส่งผลให้เสียชีวิตลง ได้นั่นเอง

โรคเอดส์ หรือการติดเชื้อเอชไอวีนี้ มีช่องทางจะสามารถติดต่อได้ 3 ทางหลัก ๆ คือ

– ติดต่อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งแน่นอนว่า หากเราไปมี เพศสัมพันธ์ กับผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์อยู่แล้ว แบบไม่สวมใส่ ถุงยางอนามัย

ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ชายกับชาย หญิงกับหญิง หรือ แม้แต่ชาย กับหญิงก็ตาม อาจจะเป็น ทั้งช่องทางธรรมชาติ หรือ ไม่ธรรมชาติ

ก็สามารถเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ ได้ทั้งนั้น เพราะเชื้อสามารถแพร่ ไปได้ทางบาดแผลเล็ก ๆ หรือแผลถลอก ที่เกิดขึ้น ในผนังของช่องคลอด

อวัยวะเพศชาย ทวารหนัก และแผลในปาก ดังนั้น การไม่สวมใส่ถุงยางอนามัย หรือไม่มีการป้องกัน ก็อาจจะติดเชื้อได้

 – ติดต่อผ่านทางเลือด โอกาสในการติดเชื้อ ผ่านช่องทางนี้ สามารถพบได้ 2 กรณี คือ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือการใช้กระบอก ฉีดยาร่วม

กับ ผู้ป่วยโรคเอดส์ ส่วนใหญ่แล้ว มักพบกับ กลุ่มผู้ใช้ สารเสพติดชนิด ฉีดเข้าเส้น หรือ การรับเลือดผ่าน ทางการผ่าตัด เพื่อช่วยรักษา โรคบางชนิด

แต่ปกติแล้ว เลือดที่ได้รับจากการบริจาค ก่อนใช้จะถูกนำไป ตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์ก่อน จึงมั่นใจได้ว่า มีความปลอดภัยเกือบ 100%

 – ติดต่อผ่านทางแม่สู่ลูก เกิดจากมารดา มีเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ จึงสามารถ ติดต่อสู่ลูกได้ ผ่านทางการตั้งครรภ์ ขณะคลอด หรือ แม้แต่หลังคลอด

แต่ในปัจจุบันนี้ มีวิธีการป้องกัน ไม่ให้แม่แพร่เชื้อ ไปยังลูก ด้วยการทานยาต้านไวรัส ในช่วงการตั้งครรภ์ จะสามารถ ลดโอกาส เสี่ยงต่อ การติดเชื้อได้

มากถึงร้อยละ 8 แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีความเสี่ยงต่อ การติดเชื้ออยู่ ควรอยู่ ในความดูแลของแพทย์

แผลถลอกติดเอดส์ไหม นอกจากที่กล่าวมาว่าอาจ ติดเชื้อHIV จากแผลที่เกิดขึ้นในผนังของช่องคลอด อวัยวะเพศชาย ทวารหนัก

และแผลในปากแล้ว ปัจจัยที่อาจส่งเสริม ให้มีโอกาส ติดเชื้อสูงขึ้น คือ แผลนั้น มีการเปิดกว้าง มีเลือดออก และสัมผัส กับสารคัดหลั่ง

หรือ เลือดที่มีเชื้อ HIV ในปริมาณมาก ในระยะเวลา ที่นานพอสมควร ก็มีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม หากใคร ที่คิดว่าตนเอง มีความเสี่ยงต่อ การติดเชื้อ ปัจจุบันนี้ สามารถเข้ารับ การตรวจหาเชื้อได้ ตามสถานพยาบาลต่าง ๆ

ซึ่งสามารถ ทำการตรวจ ได้ฟรี ถึงปีละ 2 ครั้ง ที่สถานพยาบาลของรัฐ เพียงแค่ ยื่นบัตรประชาชน

แต่หากใครที่ไม่สะดวกเดินทางไปตรวจตามสถานพยาบาล สามารถหาซื้อชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองมาตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยตนเอง

เพื่อคลาย ความกังวลก่อนได้ โดย ชุดตรวจHIV แบบนี้ สามารถใช้ตรวจ ได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ไม่ว่าที่ไหน และรู้ผลได้ใน 15-20 นาที

ทั้งนี้ ควรเลือกซื้อ ชุดตรวจ ที่ได้มาตรฐาน

การตรวจคัดกรองเบื้องต้น นอกจาก จะช่วยคลายความกังวลใจ ได้แล้ว ยังสามารถ ช่วยตรวจคัดกรอง เบื้องต้น ได้ตลอดเวลา

เพื่อเช็กว่า ร่างกายของเรามี เชื้อเอชไอวี หรือไม่ เพื่อที่ เราจะได้ป้องกัน และเข้ารับ การรักษา ได้อย่างเหมาะสม