ติดต่อ-สอบถาม 082-478-9162

ปากเป็นแผลกินข้าวร่วมกับคนเป็นเอดส์ เสี่ยงไหม?

ปากเป็นแผลกินข้าวร่วมกับคนเป็นเอดส์ เสี่ยงไหม


ปากเป็นแผลกินข้าวร่วมกับคนเป็นเอดส์ เสี่ยงไหม ? ความเข้าใจผิด ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อการอยู่ร่วมกัน

อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตประจำวัน เพราะอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการ และยังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ กับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีการติดเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ เพราะเนื่องจากอาหารมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้นด้วย

สังคมสมัยนี้ยังมีคนที่เข้าใจผิด ๆ อยู่มาก ส่งผลให้การอยู่ร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ จะส่งผลให้มีความหวาดกลัว และเลือกที่จะปฏิบัติ ทว่าเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ไม่ได้ติดกันง่าย ๆ เพราะด้วยการดูแลรักษาในสมัยปัจจุบันนี้ที่มีความก้าวหน้า จึงทำให้ผู้ที่ติดเชื้อมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นและบางครั้งหากรักษาอย่างดีมายาวนานอาจจะตรวจไม่พบเชื้อแล้วก็เป็นได้ ผู้ติดเชื้อจึงสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้นั้น คือ การที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน การรับเลือด หรือการปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์อยู่ จากแม่สู่ลูก และการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเอชไอวีโดยที่คุณมีบาดแผล หรือการจูบกันแบบเปิดปาก หากว่าทั้งสองฝ่ายมีแผลในปากหรือมีเลือดออกตามไรฟัน และถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอชไอวีอยู่ อีกฝ่ายก็อาจจะติดเชื้อได้ผ่านทางบาดแผลหรือทางเลือด

เชื้อเอชไอวีนั้นจะถึงแม้ว่าจะสามารถติดต่อได้ผ่านทางน้ำลาย แต่เชื้อไวรัสในน้ำลายนั้นมีปริมาณน้อยมาก คุณจะสามารถติดเชื้อได้ก็ต่อเมื่อรับน้ำลายมาเป็นลิตร ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่มีใครที่รับมามากขนาดนั้น และถ้ายิ่งรับประทานอาหารที่ร้อน ๆ   ก็จะยิ่งทำให้เชื้อเอชไอวีตายได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าเชื้อเอชไอวีจะเข้าสู่กระเพาะอาหารก็จะโดนกรดในกระเพาะอาหารทำลายไป

 

โดยหลัก ๆ แล้วก็จะมี 3 ทาง ที่สามารถทำให้ติดเชื้อเอชไอวีได้ คือ

1.เลือด เป็นการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรืออาจเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ไม่สะอาดมีคราบเลือดปนเปื้อนหรืออาจมีบาดแผลแล้วไปสัมผัสกับเลือดหรือน้ำเหลืองของคนมีเชื้อเอดส์

2.การมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งการร่วมเพศระหว่างชายหญิง, ชายกับชาย, โดยร่วมเพศทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก รวมทั้งการทำ Oral sex โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ปากกับอวัยวะเพศของผู้ชายที่มีเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์

3.จากมารดาสู่ลูก ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถติดต่อในระหว่างการทำคลอด และส่วนน้อยที่ติดต่อระหว่างอยู่ในครรภ์และระหว่างที่มารดาให้ลูกดูดนม

 

ปากเป็นแผลกินข้าวร่วมกับคนเป็นเอดส์ เสี่ยงไหม ?  จากที่กล่าวมา การที่จะติดเชื้อเอชไอวีจากน้ำลายได้นั้น คือ ต้องรับน้ำลายเป็นลิตร ๆ จากผู้ติดเชื้อ การรับประทานอาหารร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีในขณะที่คุณมีบาดแผลในปากจะติดเชื้อหรือไม่ ต้องพิจารณาหลาย ๆ อย่างประกอบด้วย เช่น รับประทานอาหารร่วมกันในลักษณะไหน กรณีที่ 1 สั่งอาหารเป็นกับมาเป็นจานๆ เป็นถ้วย แล้วมีจานข้าวแยกต่างหาก มีช้อนกลางในจานกับ หรือไม่มี  กรณีที่ 2 สั่งอาหารมาหนึ่งจานแล้วใช้ช้อนเดียวกันในการทานข้าว เป็นต้น

จากกรณีที่ 1 หากใช้ช้อนกลางในการตักอาหารก็สามารถสบายใจได้ว่าไม่ติดเชื้อ หากไม่ใช้ช้อนกลางในการตักอาหาร ปริมาณน้ำลายที่อาจปนเปื้อนในอาหารที่ทานร่วมกันนั้นมีน้อยมาก ๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่ำมากในการติดเชื้อผ่านทางบาดแผล และจากกรณีที่ 2 ถ้าหากคุณทานข้าวโดยใช้ช้อนเดียวกันกับผู้ติดเชื้อโดยที่คุณเองมีแผลในปาก อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเช่นกัน แต่ความเสี่ยงนี้ค่อนข้างต่ำมาก ด้วยเหตุผลด้านบนว่าในน้ำลายมีเชื้อเอชไอวีน้อยมากจริง ๆ

 


อย่างไรก็ตามแนะนำว่าถ้าหากไม่สบายใจก็ขอให้ลองตรวจดู หากไม่อยากไปที่ดรงพยาบาลหรือคลินิก ก็สามารถซื้อ อินสติ ชุดตรวจเอชไอวี มาตรวจด้วยตัวเองก็ได้ แนะนำให้ตรวจหลังเสี่ยงมาเกิน 21 วัน สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาในเครือของร้านยา Save Drug, Boots,  P&F Smooth Life, ร้านยากรุงเทพ และร้านขายยาชั้นนำทั่วประเทศ หากไม่สะดวกเดินทางไปซื้อที่ร้านขายยา สามารถสั่งซื้อได้กับทางบริษัทผู้นำเข้าโดยตรง ได้ที่ LINE OA : @insti หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.thailandhivtest.com หรือ Shopee, Lazada และ Tiktok เพียงเสิร์จชื่อร้าน INSTi_THAILANDHIVTEST ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิ๊ก >>> INSTI ใกล้บ้านฉัน

 

 

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook