ใบ ผลตรวจเอดส์ โรคเอดส์ (AIDS) เป็นภาวะการป่วยในขั้นสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายให้มีการทำงานที่บกพร่อง และเสื่อมสภาพลงจนไม่สามารถทำการต่อต้านหรือกำจัดเชื้อที่เข้าไปสู่ร่างกายได้
ในปัจจุบันก็ยัง ไม่มีวิธีการไหนที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ยาที่ช่วยในการชะลอการพัฒนาโรคและลดอัตราการเสียชีวิตลงด้วยโรคเอดส์เท่านั้น
หากผู้ที่รู้ตัวว่าตนเองนั้นกำลังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การเข้ารับการตรวจอาจจะช่วยให้คุณคลายความกังวลใจได้ เพราะหากตรวจเจอเชื้อเร็วก็อาจจะเป็นผลดีกับร่างกายของคุณ
– การตรวจแบบ Anti-HIV Antibody วิธีการนี้เป็นการตรวจหาเชื้อไวรัส โดยการตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อเอชไอวี ซึ่งจะวินิจฉัยจากการทำงานของระบบภูมิต้านทานในเซลล์เม็ดเลือดขาว วิธีการนี้จะสามารถตรวจพบเชื้อได้ในระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ จนถึง 3 เดือนหลังจากติดเชื้อ
– การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Testing) วิธีการนี้ จะเป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส ด้วยปริมาณของเชื้อ หรืออาจตรวจการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยวิธีการตรวจนี้ทางแพทย์มักจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่สูง หรือใช้ตรวจคัดกรองผู้ที่มาบริจาคเลือด เพราะเป็นวิธีที่ถือว่ามีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งสามารถตรวจพบเชื้อได้ภายในระยะเวลา 1-4 สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ
– การตรวจแบบ PCR (Polymerase Chain Reaction) วิธีการตรวจนี้ เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรม ในระดับของอณูชีวโมเลกุล โดยสามารถ ทำการตรวจได้ ในเด็กทารก ที่มีความเสี่ยง ต่อการได้รับเชื้อ มาจากมารดา หลังคลอด ที่ช่วงอายุ 1 เดือน และใช้ตรวจ กับผู้ใหญ่ หลังเสี่ยงประมาณ 14 วันขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ มีความเสี่ยง ได้เข้ารับ การตรวจ หาเชื้อ ที่โรงพยาบาล โดยทั่วไปแล้ว ใน ใบ ผลตรวจเอดส์ ก็จะแสดงรายละเอียด เกี่ยวกับ การตรวจหาเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยบางราย อาจจะ ไม่เข้าใจ กับใบผลตรวจ ว่ามีความหมาย ว่าอย่างไร
โดยใน ใบผลตรวจ เอดส์ ก็จะมีการ แสดงผล การตรวจต่าง ๆ อาจจะทำให้ ใครหลาย ๆ คน เข้าใจยาก หรือไม่เข้าใจแต่หลัก ๆ ที่แสดง ในผลตรวจ ก็คือ ผล การตรวจแบบ HIV Negative (ผลลบ) กับ HIV Positive (ผลบวก) ซึ่งก็ หมายความว่า
– HIV Negative (ไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี)
– HIV Positive (ติดเชื้อเอชไอวี)
นอกจากนี้ ในใบผลตรวจ ก็ยังคงมี การแสดงข้อมูล แบบอื่น ๆ ออกมาให้เห็น แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ทางโรงพยาบาล หรือคลินิก ที่ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจ
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน การตรวจหาเชื้อเอชไอวี ก็สามารถ ทำได้อีกวิธี คือ การตรวจ ด้วยชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง โดยทาง อย. ก็ได้ทำการปลดล็อค ให้มีการวางจำหน่าย ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เพื่อเป็นทางออก ให้แก่ผู้ที่ มีความเสี่ยง แต่ไม่กล้าเดินทาง ไปตรวจ ที่โรงพยาบาล หรือคลินิกนิรนาม
ดังนั้น หากผู้ที่ กำลังมีความเสี่ยง ก็ควร ทำการตรวจ เพื่อคลายความกังวลใจ ด้วยชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง ที่มีความปลอดภัย แม่นยำ ได้มาตรฐาน และ สามารถทำการตรวจตรวจได้เองที่บ้าน
ทั้งนี้ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นเพียงการตรวจ เพื่อคัดกรอง เบื้องต้นก็เท่านั้น หากผลตรวจ ออกมาเป็นบวก หรือลบ ก็ให้เข้ารับ การตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันผลตรวจ ที่แน่ชัด มากกว่านี้ ไม่ว่าโรคอะไรก็แล้วแต่ หากตรวจพบ ตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือตรวจพบไว ย่อมเป็นผลดี ต่อการรักษา
อยากมั่นใจในทุกครั้งที่ตรวจ โปรดซื้อชุดตรวจเอชไอวีกับร้านที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานรับรอง
สนใจสอบถาม-สั่งซื้อสินค้า Click เพื่อ Add LINE สอบถามได้เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook